หลายคนทราบดีว่าออฟฟิศซินโดรมเกิดจากท่าทางการทำงานที่ไม่เหมาะสม จึงทำให้พนักงานออฟฟิศเป็นกลุ่มเสี่ยงมากที่สุดของโรคดังกล่าว แต่นอกจากพนักงานออฟฟิศแล้วอาชีพอื่น ๆ ก็มีความเสี่ยงได้เช่นกัน เช่น นักกีฬา พนักงานขับรถ พนักงานขายที่ต้องยืนนาน ๆ เป็นต้น ดังนั้นการเรียนรู้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการนี้ จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรรู้ เพื่อให้สามารถดูแลร่างกายของตัวเองได้อย่างถูกวิธี

ป้องกันออฟฟิศซินโดรม ด้วยการกำจัดต้นเหตุ

                สาเหตุหลักของออฟฟิศซินโดรมคือการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่บังคับให้เราอยู่ในท่าเดิมนาน ๆ ทำให้กล้ามเนื้อมัดที่ถูกใช้งานซ้ำ ๆ ต้องทำงานหนักมากเกินไป แม้จะจัดการท่าทางให้อยู่ในท่าที่ถูกต้องแล้วแต่ถ้ายังอยู่ในท่าเดิมนาน ๆ โดยไม่พัก ก็ส่งผลให้เกิดอาการปวดตามมาเช่นกัน ดังนั้นการป้องกันจึงต้องเริ่มต้นตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงที่ต้นเหตุใกล้ตัว

เปลี่ยนอุปกรณ์ที่ใช้ทำงานให้เหมาะกับร่างกาย

อุปกรณ์ในการทำงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ อุปกรณ์รองข้อมือ หรืออื่น ๆ ควรเป็นอุปกรณ์ที่รองรับร่างกายตามหลักสรีรศาสตร์ มีฟังก์ชันปรับระดับเพื่อปรับให้เหมาะสมกับร่างกาย ช่วยรองรับกล้ามเนื้อไม่ให้ทำงานหนักจนเกินไป

ตั้งเวลาพักไว้ ไม่ให้เผลอทำงานนานจนเกินไป

การจับเวลาให้ร่างกายได้พักระหว่างทำงานทุก ๆ 30-60 นาที จะช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายมากขึ้น ระหว่างเวลาพักให้เปลี่ยนท่าทางยืดเหยียดร่างกาย ป้องกันไม่ให้เกิดอาการเจ็บหรือปวดระหว่างการทำงาน เพราะเมื่อมีอาการแล้วจะยิ่งทำให้งานสะดุดมากกว่าการพักจากงานเพื่อผ่อนคลายร่างกายเสียอีก

พักสายตา มองหาสิ่งที่ช่วยให้ผ่อนคลาย

นอกจากการอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อแล้ว ยังมีอาการข้างเคียงอื่น ๆ ของออฟฟิศซินโดรมที่ต้องอาศัยการผ่อนคลายสายตาและความคิดด้วย เช่น วิงเวียนศีรษะ ตาพร่า หูอื้อ มึนงง เป็นต้น ให้หาเวลาพักสายตา เปลี่ยนไปมองอะไรที่ผ่อนคลายอย่างต้นไม้หรือแม่น้ำให้มากขึ้น

ป้องกันออฟฟิศซินโดรม ด้วยการเพิ่มกิจวัตรที่ดีต่อร่างกาย

                ออฟฟิศซินโดรมเป็นโรคที่ต้องป้องกันโดยการใส่ใจสภาพร่างกายของตนเอง ดังนั้นจึงต้องมีพฤติกรรมการดูแลสุขภาพที่ทั้งช่วยป้องกันและเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายด้วย กิจวัตรต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ควรเพิ่มเข้ามาในการใช้ชีวิตแต่ละวัน เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและเสี่ยงต่อโรคน้อยลง

ทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อกล้ามเนื้อ

ถึงแม้จะป้องกันออฟฟิศซินโดรมด้วยการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมแล้ว แต่ถ้าหากร่างกายขาดสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อกล้ามเนื้อ ก็อาจทำให้เกิดอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อได้ง่าย จึงควรทานอาหารที่อุดมด้วยแมกนีเซียม โปรตีน และวิตามิน เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงด้วย

ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การบริหารกล้ามเนื้อระหว่างพักทำงานอาจไม่เพียงพอที่จะทำให้ร่างกายแข็งแรง จึงต้องหาเวลาออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 30 นาที เพื่อให้ระบบอื่น ๆ ของร่างกายแข็งแรง ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบกล้ามเนื้อให้ดีขึ้น ไม่บาดเจ็บง่ายเหมือนกล้ามเนื้อที่ไม่เคยได้รับการฝึกฝนเลย

นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

เมื่อร่างกายได้รับสารอาหารเพียงพอ และออกกำลังกายจนแข็งแรงแล้ว ก็อย่าลืมพักผ่อนอย่างมีคุณภาพด้วย เพราะในระหว่างที่เรานอนหลับ ร่างกายจะมีเวลาในซ่อมแซมและฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ไม่บาดเจ็บง่าย เสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ น้อยลงนั่นเอง

ออฟฟิศซินโดรมเป็นโรคที่ป้องกันได้ แม้ในขณะที่เป็นในระยะแรก ๆ ก็ยังรักษาให้หายด้วยตัวเองได้ จึงอาจเป็นอาการเจ็บปวดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของร่างกาย ที่หลายคนเผลอมองข้าม การเอาใจใส่สัญญาณเตือนจากร่างกายจะทำให้เราป้องกันอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี และมีสุขภาพร่างกายโดยรวมที่แข็งแรงดีตามมา

Explore More

การวางแผนการดูแลล่วงหน้า สำหรับผู้ป่วยที่ต้องผ่านการดูแล palliativecare มีความสำคัญอย่างไร

February 7, 2023 0 Comments 1 tag

การดูแล palliativecare หรือการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง เป็นการดูแลผู้ป่วยที่ป่วยในระยะสุดท้าย โดยจะต้องมีการดูแลในหลาย ๆ ด้านของผู้ป่วย ทั้งการดูแลอาการที่เกิดขึ้นทางกาย และรวมถึงอาการที่เกิดขึ้นทางจิตใจด้วย ในการดูแลจะต้องให้ความสำคัญทั้งตัวของผู้ป่วย และครอบครัวด้วย เพื่อเป็นการช่วยให้ลดความทุกข์ทรมานที่เกิดขึ้นได้ และสามารถทำให้ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถข้ามพ้นช่วงเวลาในระยะสุดท้ายนี้ไปได้ ซึ่งการดูแลผู้ป่วยด้วยวิธีมีความละเอียดอ่อนมาก ๆ จึงเป็นที่จะต้องทำการวางแผนล่วงหน้า แล้วการวางแผนล่วงหน้ามีความสำคัญอย่างไร ต้องทำแบบไหนบ้าง มาติดตามกันในบทความนี้เลย  การดูแล palliativecare กับการวางแผนล่วงหน้าที่จำเป็นต้องทำ  อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วในตอนต้นว่า การดูแล palliativecare หรือการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองนี้ จำเป็นมาก ๆ ที่จะต้องมีการวางแผนล่วงหน้าในการดูแลผู้ป่วยด้วย เพราะปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นบ่อย

การตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานได้อย่างไร

ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน
July 3, 2023 0 Comments 1 tag

สถานที่ทำงานในปัจจุบันไม่ได้มีแค่ผลผลิตและรายได้เท่านั้น พวกเขาตระหนักมากขึ้นถึงความสำคัญของความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานในฐานะส่วนสำคัญของความสำเร็จขององค์กร สิ่งสำคัญประการหนึ่งของแนวทางนี้คือการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานของพนักงานใหม่ นี่คือเหตุผลว่าทำไมสิ่งนี้จึงมีความสำคัญ: 1. สถานะสุขภาพและความเข้ากันได้ของงาน งานที่แตกต่างกันต้องการความสามารถทางร่างกายและจิตใจที่แตกต่างกัน การตรวจสุขภาพสามารถระบุได้ว่าสถานะสุขภาพของผู้สมัครสอดคล้องกับข้อกำหนดของงานหรือไม่ ซึ่งจะช่วยรับประกันประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น 2. การดูแลป้องกันและการวินิจฉัยเบื้องต้น การตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานสามารถตรวจพบสภาวะที่เป็นอยู่ในระยะแรก ทำให้สามารถรักษาได้ทันท่วงที นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันไม่ให้อาการกำเริบขึ้นอีก ทำให้มั่นใจได้ว่าพนักงานจะเริ่มต้นการทำงานกับองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3. ลดการลาป่วย ภาวะสุขภาพอาจนำไปสู่การขาดงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของทีม การนำการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการก่อนเริ่มงานจะช่วยลดอัตราเหล่านี้ได้ ทำให้ขั้นตอนการทำงานมีความราบรื่นขึ้น 4. การสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่มั่นคง การตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานสำหรับพนักงานใหม่ถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆของบริษัท วิธีการนี้ไม่เพียงแต่ส่งเสริมวัฒนธรรมของการใส่ใจในสุขภาพเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มภาพลักษณ์ขององค์กร และเพิ่มอัตราการความมั่นคงของการผลิต 5. ประหยัดค่าใช้จ่าย การตรวจพบปัญหาสุขภาพตั้งแต่เนิ่นๆ

เรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับการหาร้านเครื่องช่วยฟังที่ดีและมีประสิทธิภาพ

ร้านเครื่องช่วยฟัง
March 29, 2023 0 Comments 1 tag

บทความนี้เรามีเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับการหาร้านเครื่องช่วยฟังที่ดีและมีประสิทธิภาพมาฝาก ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับการหาร้านเครื่องช่วยฟังที่ดีและมีประสิทธิภาพที่เรานำมาฝากกันในบทความนี้จะมีอะไรบ้างนั้น ต้องตามมาดูพร้อมๆ กันที่ด้านล่างของบทความนี้กันเลย